Project Sweet Love
Title : Sweet of Haizaki Shouko
Fandom : Kuroko no basket
Pairing :
Haizaki Shouko x Furihata kouki
Rate : -
“ไอเฮี้ย!!!มึงหยุดวิ่งเดี่ยวนะเว้ย....ซา... ไฮซากิ เจ้าไฮซากิ!!!”
เสียงชายนับสิบวิ่งมาพร้อมอาวุธครบมือ ทำเอาเจ้าตัวเจ้าของชื่อหันมาตะโกนด่าก่อนจะล้มลุกคลุกคลานลนลานวิ่งหนีเหมือนกับตัวเองเป็นผู้ร้ายอาชญากรคดีร้ายแรง
“ฉิบหายล่ะ แมร่งตามกูอยู่ได้” ขายาวหอบแฮ่กก่อนจะถลาตัวเข้าไปในหลบในซอกถังขยะสีดำที่มีขยะพูนกองเป็นภูเขาขนาดย่อม
“แหวะ..กูอยากจะอ๊วก เหม็นฉิบหายเลย ไอเวรพวกนั้น ฝากไว้ก่อน หนีได้เมื่อไหร่กูจะไปเอาคืนให้สาสม”
ดวงตาสีเทาชะโงกมองก่อนเสียงฝีเท้าจะดังจนเขาต้องเขยิบก้มจนมิดให้พ้นสายตาคนที่ไล่ตามก่อนเสียงฝีเท้าจะวิ่งผ่านไปจนเขาถอนใจอย่างโล่งอก “รอดแล้วกู”
ฟรวด!!!
“ย๊าก...เฮ้ย!!” ขยะถูกถูกเทลงมาจนหมดถังก่อนไฮซากิจะลุกพรวดตะคอกด่าลั่นจนคนที่เทลงมาสะดุ้งโหย่ง
“ทำอะไรเนี้ยไม่เห็นคนหรือไงเจ้าเซ่อ” ดวงตาสีน้ำตาลกระพริบปริบๆทำเอาไฮซากิหยุดชะงักคำด่าอีกประโยคและกลืนหายมันลงไป
“ผมขอโทษนะครับไม่เห็นว่าคุณนั่งอยู่ตรงนั้น” ดวงตาสีน้ำตาลสั่นไหวก้มหน้านิ่งอย่างสำนึกผิดทำเอาไฮซากิเหวออึ้งพูดไม่ออก
“เออ..เออ!! ไหนๆมันก็เทลงมาแล้ว จะไปโทษนายก็ไม่ได้ งั้นก็ไม่เป็นไร” ดวงตาสีน้ำตาลเงยหน้าขึ้นยกยิ้มหวานทำเอาไฮซากิกลืนน้ำลายเฮือกใหญ่ลง น่ารักว่ะ....เฮี้ยแหละนั้นมันผู้ชายนะเฟ้ย!! ฝามือใหญ่กุมปากเบือนหน้าคิดเพ้อเจ้อหนีก่อนอีกฝ่ายจะสะกิดชายเสื้อเขาจนต้องเหลียวมอง
“สกปรกแบบนี้ไปอาบน้ำบ้านผมไหม..ไฮซากิคุง” ใบหน้าคมเลิกคิ้วมองดวงตาสีเทาหันมองซ้ายมองขวามองใบหน้าหวานตรงหน้าและฉงนคิด มันคือใครหว่า....?
“รู้จักฉันได้ไง ฉันมั่นใจว่าฉันไม่เคยรู้จักคนเซ่อๆอย่างนาย”
“ผมชื่อ ฟุริฮาตะ โคคิ อยุ่ชมรมบาสเซย์รินครับ” ไฮซากิลูบคางครุ่นคิดก่อนจะสะบัดหัวไล่เพราะเขาเสือกจำไม่ได้แต่มันก็คงเป็นใครสักคนที่รู้จักเขาละกัน ช่างเถอะ....น่ารักขนาดนี้ทำไหมจำไม่ได้ฟร่ะ
“เออ!!รบกวนบ้านนายหน่อยละกัน พอดีไม่อยากออกไปเดินเตร่ในสภาพที่น่าสมเพสแบบนี้ ทั้งเหม็นทั้งเน่าเหมือนถังขยะเดินได้” ฟุริฮาตะอมยิ้มพยักหน้าก่อนจะเผลอจับข้อมืออีกฝ่ายออกแรงจูงจนไฮซากิหน้าเหวออึ้งขึ้นสีทันที ดวงตาสีเทาเหลียวมองร่างของฟุริฮาตะจากด้านหลังก่อนจะเขยิบมาใกล้จนอีกฝ่ายเหลียวมอง ทำเอาไฮซากิแทบทำอะไรไม่ถูกเพราะไม่เคยมีใครใจดีกับเขาแบบนี้มาก่อน น่ารักจริงๆด้วย!!!เจ้าเด็กนี้
“ยินรอแปปนะ” ร่างเล็กตรงหน้าล้วงหยิบอะไรบางอย่างในกระเป๋า และมันก็คือลูกกุญแจ ทำเอาไฮซากิเลิกลักมองเมื่อเขารู้สึกตื่นเต้นแปลกๆเพราะไม่บ่อยนักเขาจะเข้าบ้านใครทั่งๆที่ไม่รู้จักถึงแม้อีกฝ่ายจะดูเป็นมิตรและนิสัยน่าร๊ากกกเอาม๊วกๆก็เหอะ
“เออ..นี่ไม่กลัวฉันเหรอ ฉันมันอันธพาลนะ”
“ไม่นิครับ ก็คุณกำลังเดือดร้อน แล้วอีกอย่างคุณก็ไม่ได้จะทำร้ายผมซะหน่อย” มองโลกแง่ดีสุดๆให้ตายสิหมอนี้มันไม่ระวังตัวเอาซะเลย ไฮซากิถอนใจก่อนอีกฝ่ายจะยิ้มหวานและไขเปิดประตูจนสำเร็จ
“เชิญครับ บ้านผมรกไปหน่อยแต่ก็ปลอดภัย” ไฮซากิมองสำรวจรอบๆก่อนจะเลือกนั่งบนโซฟาสีขาวในห้องรับแขกแต่สายตาสีเทายังคงมองร่างเล็กวิ่งวุ่นไปมาและหยิบผ้าขนหนูยื่นให้
“ขึ้นไปอาบน้ำก่อนเถอะครับ” เอ๊ะ!!! ดวงตาสีเทาเลิกลักก่อนจะลุกขึ้นเหวอๆทำเอาฟุริฮาตะยิ้มมอง
“ฉันใช่ห้องน้ำข้างล่างก็ได้”
“แต่มันจะไม่สะดวกนะครับ ห้องผมน่าจะดีกว่า”ใบหน้าหวานเอียงคอนิดก่อนไฮซากิจะเผลอลูบหัวอีกฝ่ายทำเอาฟุริฮาตะจ้องตากลมเหลียวมองไปตามฝามือใหญ่นั้น
“ขอโทษที และก็ขอบใจด้วย” ไฮซากิลูบต้นคอไปมาก่อนจะรีบเดินขึ้นไปอาบน้ำที่ชั้นบนด้วยเสียงหัวใจเต้นตึกตักทำเอาร้อนผ่าว ชักไม่ดีแล้วกู....
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป
ไฮซากิออกมาจากห้องน้ำโดยมีผ้าขนหนูพันรอบเอว ดวงตาสีเทาไล่สำรวจมองรอบห้องของชายหนุ่มฟุริฮาตะก่อนจะเลื่อนสายตาไปยังขอบเตียงและหยิบกรอบรูปขึ้นดู
“ตอนเด็กมันก็น่ารักนะเจ้านั้น “ ดวงตาสีเทาไล่มองไปอีกฝั่งก่อนจะเหลือบไปเห็นรูปรวมกลุ่มเพื่อนที่ได้แชมป์วินเทอร์คัพเซย์รินปีนี้ “เหอะ...เจ้าพวกนั้น”ก่อนจะมาสะดุดรูปที่คุ้นตาและรีบคว้ามาดูใกล้ๆ มันเป็นรูปของฟุริฮาตะที่มีสมาชิกรุ่นปฎิหาริย์ทั้งหกคนที่ห้อมล้อม เหอะ....นั้นมันที่ของคนอย่างฉัน!!! ดวงตาสีเทาสั่นเทาก่อนจะกระแทกรูปนั้นวางไว้ที่เดิม จนร่างเล็กบังเอิญเข้ามาตอนไหนไม่รู้สะดุ้งไฮซากิจับโพกัสไปที่ใบหน้าของอีกฝ่ายก่อนดวงตาสีน้ำตาลเหมือนจะตื่นกลัวขึ้นจากพฤติกรรมของเขา
“โทษที พอดีมันอดไม่ได้ที่จะโมโห” ใบหน้าหวานนั้นดูผ่อนคลายลงกว่าเมื่อครู่จนเขารู้สึกแปลกใจ
“โมโหทำไหมครับ ไฮซากิคุงก็เป็นคนที่มีความสามารถที่ผมชื่นชอบ” เฮ้ย...เฮ้ยพูดว่าชอบเราตรงๆคนเลวอย่างฉันเนี้ยนะ
“อย่ามาพูดปลอบเถอะ นายไม่รู้หรอกว่าฉันคนนี้มันแย่แค่ไหน เผลอๆพอนายรู้อาจจะวิ่งเผ่นห่างเป็นกิโล หรือไม่ก็คงจะรู้สึกคิดผิดที่ให้อันธพาลอย่างฉันเข้ามาในบ้านของนายก็ได้”
“ไม่หรอกครับ.....ผมว่าคนเราทุกคนก็มีทั้งข้อดีข้อเสีย แล้วไฮซากิคุงก็อาจจะมีข้อเสียมากกว่าข้อดีเฉยๆเท่านั้น”ดวงตาสีน้ำตาลนิ่งมองพร้อมรอยยิ้มที่อ่อนโยนทำเอาคนหัวใจกระด้างอย่างไฮซากิเต้นตึกตักขึ้น ซวย...แล้วกู มันจะเต้นดังทำไมว่ะมันเป็นผู้ชาย มันเป็นผู้ชาย....ถ่องไว้ ถ่องไว้ ดวงตาสีเทาสั่นไหวก่อนจะเม้มปากแน่นความฟุ้งซ่านเพ้อเจ้อและสุดท้ายเขาก็ต้องยอมรับมันจนได้ กู....ชอบมันว่ะหมอนี้
“เฮ้ย..ไฮ.ซากิ วันนี้ไม่คิดจะซ้อมนอกจากนั่งนิ่งเฉยๆเป็นชั่วโมงหรือไง” เสียงตะโกนดังมาจากในสนามฝึกซ้อมของมัธยมปลายฟุคุดะ ทำเอาไหล่กว้างยักไหล่เมินหน้าหนี
“เออ....ตามใจ แล้วถ้าปีหน้าแพ้อีกแล้วอย่ามาโทษทีมละกัน”
“นี่...อิชิดะ นายรู้จักคนที่ชื่อฟุริฮาตะไหม?”
“ใครนะ..อารายริริ ผู้หญิงคนใหม่ของนายหรือไง” ดวงตาสีเทานิ่งมองก่อนจะลุกมากระชากคอเสื้อกัปตันทีมขึ้นโดยไม่มีความเคารพทำเอาอิชิดะสะบัดแขนอีกฝ่ายออก
“ฉันตอบนายดีๆ เคารพกันบ้างฉันรุ่นพี่นายนะ”
“ไปสืบให้หน่อยรุ่นพี่ ว่าฟุริฮาตะ โคคิ ผู้เล่นของเซย์รินนั้นเป็นใคร มาจากไหน ผมขอความกรุณาครับ” เสียงกวนยั่วอารมรณ์ทำเอากัปตันอิชิดะแทบอยากจะยกเท้าถีบรุ่นน้องกวนบาทาคนนี้
“เดี่ยวไปหาข้อมูลมาให้”
“งั้น...!!ก็ขอบใจ”ดวงตาสีเทากลอกตากวนมองผู้เล่นในสนามก่อนจะแสยะยิ้มเยาะการซ้อมที่เขาคิดว่ามันโคตรไร้สาระ
ในที่สุดไฮซากิ โชโงะก็ได้ทั้งประวัติของชายหนุ่มร่างเล็กคนนั้นมาทำให้วันนี้เขาพาตัวเองมาบุกถึงหน้าประตูโรงเรียนที่ก่อตั้งใหม่อย่างเซย์ริน อยากได้เหยื่อก็ต้องบุกนั้นคือคำนิยามของไฮซากิเวลานี้ ดวงตาสีเทาเหลียวมองนักเรียนหนุ่มสาวที่วนเวียนออกมาไม่ซ้ำหน้าจนเขาเริ่มรู้สึกหงุดหงิดเพราะไร้วี่แววร่างเล็กของฟุริฮาตะคนที่เขามาดักเจอ จนเขาต้องกวักมือเรียกกลุ่มนักเรียนที่เดินมาซักถาม
“นี่พวกนายรู้จักฟุริฮาตะ โคคิไหม”
“ฟุริคุงเหรอค่ะ รู้ค่ะ”
“เขาอยู่ไหนทำไหมยังไม่ออกมาสักที”
“คงเป็นเวรห้องสมุดมั่งค่ะ” เสียงของผู้หญิงหน้าเรียวเล็กทำเอาไฮซากิเข้าใจแจ่มแจ้งก่อนจะกระดกลิ้นไปมผิวปากในท่าทางที่สบายเข้ามาในโรงเรียน ดวงตาสีเทาเหลียวซ้ายมองขวาก่อนจะหันไปมองบอร์ดแผนที่ของโรงเรียนและแสยะยิ้ม อยู่นั้นเองห้องสมุดเซย์ริน
ไฮซากิเปิดแง้มช่องเล็กที่ของประตูที่อ้าอยู่ก่อนจะแทรกหัวโผล่เข้าไปเหลียวมอง ดวงตาสีเทากระตุกยิ้มเมื่อเห็นเป้าหมายที่ก้มบ่นงึมงำอยู่ที่เค้าเตอร์ ถึงจะผ่านมาเกือบอาทิตย์แต่ใบหน้าหวานนั้นยังดูมีแรงดึงดูดบางอย่างทำเอาไฮซากิเผลอจ้องและวาดวิมานเพ้อเจ้ออีกครั้ง ไปไกลๆฉันเพ้อบ้าอะไรอยุ่ฟร่ะ เรียวปากหนาพ่นเป่าความคิดให้ปลิวแตกกระจายก่อนจะแทรกร่างสูงรอดผ่านช่องแคบโดยไม่คิดจะเปิดออกกว้างอย่างมีแผนการณ์ลับ
ขาคู่ยาวค่อยๆย่องเหมือนโจรกำลังปล้นทรัพย์ แต่ทรัพย์ชิ้นนี้มีสมบัติที่เขาอยากได้กว่าเงินทองและของมีค่าใดๆหลังก้มโค้งจนต่ำไปหลบอยู่ข้างโต๊ะเค้าเตอร์ก่อนจะเม้มปากแน่นและค่อยๆเคลื่อนหัวขึ้นช้าๆจนขอบเค้าเตอร์อยู่ในระดับสายตาที่มองเห็นใบหน้าที่ดูจริงจังของใบหน้าเล็กที่กำลังหมกมุ่นโดยไม่ได้รู้สึกการมีตัวตนของเขาเลยแม้แต่น้อย ดวงตาสีเทาชันคางกับโต๊ะจ้องมองใบหน้าอีกฝ่ายอยู่เงียบๆจนเผลอยิ้มไปตามสีหน้าที่เดี่ยวก็ครุ่นคิดเดี่ยวก็สับสนจนเดาอารมณ์ไม่ออก จนปลายปากกาของอีกฝ่ายหยุดชะงักและเหลียวมาทางเขา
“ไฮ...ซากิ...ไฮซากิคุง!!!”
“ไง....ฟุริคุง” ไฮซากิยักคิ้วหนึ่งข้างทักทายก่อนจะคว้าหนังสือแถวๆนั้นยื่นให้
“ฉันอยากมาขอยืมหนังสือที่ห้องสมุดของนายสักเล่ม.....ได้ไหม” ใบหน้าหวานอมยิ้มขึ้นก่อนจะรับหนังสือที่อีกฝ่ายยื่นมาดูให้ชัดๆ “เล่มนี้หรือครับ”
“ใช่!!!เล่มนี้ล่ะ.....หนังสือที่ฉันจะยืมนาย” ใบหน้าหวานนิ่งมองก่อนไฮซากิจะยิ้มเขินเมื่อมองเห็นชื่อของหน้าปกหนังสือที่ทำให้เหวออายอ้ำอึ้ง
“หว่า...อยากจะเป็นคนดีขึ้นสินะครับ ถึงได้มายืมหนังสือจริยธรรมเนี้ย!!”
“แล้วถ้าฉันอยากจะเป็นคนที่ดีขึ้นจริงๆล่ะ นายจะว่าไงฟุริคุง”
ฝามืออุ่นยื่นถือวิสาสะกอบกุมมือเล็กของอีกฝ่ายก่อนดวงตาสีเทาจะจ้องและพูดประโยคเดิมซ้ำด้วยน้ำเสียงจริงจังขึ้น “ว่าไง...ถ้าฉันเป็นคนที่ดีขึ้นจริงๆนายจะชอบคนอย่างฉันไหม?.......ฟุริฮาตะ โคคิ
“ฉิบหายล่ะ แมร่งตามกูอยู่ได้” ขายาวหอบแฮ่กก่อนจะถลาตัวเข้าไปในหลบในซอกถังขยะสีดำที่มีขยะพูนกองเป็นภูเขาขนาดย่อม
“แหวะ..กูอยากจะอ๊วก เหม็นฉิบหายเลย ไอเวรพวกนั้น ฝากไว้ก่อน หนีได้เมื่อไหร่กูจะไปเอาคืนให้สาสม”
ดวงตาสีเทาชะโงกมองก่อนเสียงฝีเท้าจะดังจนเขาต้องเขยิบก้มจนมิดให้พ้นสายตาคนที่ไล่ตามก่อนเสียงฝีเท้าจะวิ่งผ่านไปจนเขาถอนใจอย่างโล่งอก “รอดแล้วกู”
ฟรวด!!!
“ย๊าก...เฮ้ย!!” ขยะถูกถูกเทลงมาจนหมดถังก่อนไฮซากิจะลุกพรวดตะคอกด่าลั่นจนคนที่เทลงมาสะดุ้งโหย่ง
“ทำอะไรเนี้ยไม่เห็นคนหรือไงเจ้าเซ่อ” ดวงตาสีน้ำตาลกระพริบปริบๆทำเอาไฮซากิหยุดชะงักคำด่าอีกประโยคและกลืนหายมันลงไป
“ผมขอโทษนะครับไม่เห็นว่าคุณนั่งอยู่ตรงนั้น” ดวงตาสีน้ำตาลสั่นไหวก้มหน้านิ่งอย่างสำนึกผิดทำเอาไฮซากิเหวออึ้งพูดไม่ออก
“เออ..เออ!! ไหนๆมันก็เทลงมาแล้ว จะไปโทษนายก็ไม่ได้ งั้นก็ไม่เป็นไร” ดวงตาสีน้ำตาลเงยหน้าขึ้นยกยิ้มหวานทำเอาไฮซากิกลืนน้ำลายเฮือกใหญ่ลง น่ารักว่ะ....เฮี้ยแหละนั้นมันผู้ชายนะเฟ้ย!! ฝามือใหญ่กุมปากเบือนหน้าคิดเพ้อเจ้อหนีก่อนอีกฝ่ายจะสะกิดชายเสื้อเขาจนต้องเหลียวมอง
“สกปรกแบบนี้ไปอาบน้ำบ้านผมไหม..ไฮซากิคุง” ใบหน้าคมเลิกคิ้วมองดวงตาสีเทาหันมองซ้ายมองขวามองใบหน้าหวานตรงหน้าและฉงนคิด มันคือใครหว่า....?
“รู้จักฉันได้ไง ฉันมั่นใจว่าฉันไม่เคยรู้จักคนเซ่อๆอย่างนาย”
“ผมชื่อ ฟุริฮาตะ โคคิ อยุ่ชมรมบาสเซย์รินครับ” ไฮซากิลูบคางครุ่นคิดก่อนจะสะบัดหัวไล่เพราะเขาเสือกจำไม่ได้แต่มันก็คงเป็นใครสักคนที่รู้จักเขาละกัน ช่างเถอะ....น่ารักขนาดนี้ทำไหมจำไม่ได้ฟร่ะ
“เออ!!รบกวนบ้านนายหน่อยละกัน พอดีไม่อยากออกไปเดินเตร่ในสภาพที่น่าสมเพสแบบนี้ ทั้งเหม็นทั้งเน่าเหมือนถังขยะเดินได้” ฟุริฮาตะอมยิ้มพยักหน้าก่อนจะเผลอจับข้อมืออีกฝ่ายออกแรงจูงจนไฮซากิหน้าเหวออึ้งขึ้นสีทันที ดวงตาสีเทาเหลียวมองร่างของฟุริฮาตะจากด้านหลังก่อนจะเขยิบมาใกล้จนอีกฝ่ายเหลียวมอง ทำเอาไฮซากิแทบทำอะไรไม่ถูกเพราะไม่เคยมีใครใจดีกับเขาแบบนี้มาก่อน น่ารักจริงๆด้วย!!!เจ้าเด็กนี้
“ยินรอแปปนะ” ร่างเล็กตรงหน้าล้วงหยิบอะไรบางอย่างในกระเป๋า และมันก็คือลูกกุญแจ ทำเอาไฮซากิเลิกลักมองเมื่อเขารู้สึกตื่นเต้นแปลกๆเพราะไม่บ่อยนักเขาจะเข้าบ้านใครทั่งๆที่ไม่รู้จักถึงแม้อีกฝ่ายจะดูเป็นมิตรและนิสัยน่าร๊ากกกเอาม๊วกๆก็เหอะ
“เออ..นี่ไม่กลัวฉันเหรอ ฉันมันอันธพาลนะ”
“ไม่นิครับ ก็คุณกำลังเดือดร้อน แล้วอีกอย่างคุณก็ไม่ได้จะทำร้ายผมซะหน่อย” มองโลกแง่ดีสุดๆให้ตายสิหมอนี้มันไม่ระวังตัวเอาซะเลย ไฮซากิถอนใจก่อนอีกฝ่ายจะยิ้มหวานและไขเปิดประตูจนสำเร็จ
“เชิญครับ บ้านผมรกไปหน่อยแต่ก็ปลอดภัย” ไฮซากิมองสำรวจรอบๆก่อนจะเลือกนั่งบนโซฟาสีขาวในห้องรับแขกแต่สายตาสีเทายังคงมองร่างเล็กวิ่งวุ่นไปมาและหยิบผ้าขนหนูยื่นให้
“ขึ้นไปอาบน้ำก่อนเถอะครับ” เอ๊ะ!!! ดวงตาสีเทาเลิกลักก่อนจะลุกขึ้นเหวอๆทำเอาฟุริฮาตะยิ้มมอง
“ฉันใช่ห้องน้ำข้างล่างก็ได้”
“แต่มันจะไม่สะดวกนะครับ ห้องผมน่าจะดีกว่า”ใบหน้าหวานเอียงคอนิดก่อนไฮซากิจะเผลอลูบหัวอีกฝ่ายทำเอาฟุริฮาตะจ้องตากลมเหลียวมองไปตามฝามือใหญ่นั้น
“ขอโทษที และก็ขอบใจด้วย” ไฮซากิลูบต้นคอไปมาก่อนจะรีบเดินขึ้นไปอาบน้ำที่ชั้นบนด้วยเสียงหัวใจเต้นตึกตักทำเอาร้อนผ่าว ชักไม่ดีแล้วกู....
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป
ไฮซากิออกมาจากห้องน้ำโดยมีผ้าขนหนูพันรอบเอว ดวงตาสีเทาไล่สำรวจมองรอบห้องของชายหนุ่มฟุริฮาตะก่อนจะเลื่อนสายตาไปยังขอบเตียงและหยิบกรอบรูปขึ้นดู
“ตอนเด็กมันก็น่ารักนะเจ้านั้น “ ดวงตาสีเทาไล่มองไปอีกฝั่งก่อนจะเหลือบไปเห็นรูปรวมกลุ่มเพื่อนที่ได้แชมป์วินเทอร์คัพเซย์รินปีนี้ “เหอะ...เจ้าพวกนั้น”ก่อนจะมาสะดุดรูปที่คุ้นตาและรีบคว้ามาดูใกล้ๆ มันเป็นรูปของฟุริฮาตะที่มีสมาชิกรุ่นปฎิหาริย์ทั้งหกคนที่ห้อมล้อม เหอะ....นั้นมันที่ของคนอย่างฉัน!!! ดวงตาสีเทาสั่นเทาก่อนจะกระแทกรูปนั้นวางไว้ที่เดิม จนร่างเล็กบังเอิญเข้ามาตอนไหนไม่รู้สะดุ้งไฮซากิจับโพกัสไปที่ใบหน้าของอีกฝ่ายก่อนดวงตาสีน้ำตาลเหมือนจะตื่นกลัวขึ้นจากพฤติกรรมของเขา
“โทษที พอดีมันอดไม่ได้ที่จะโมโห” ใบหน้าหวานนั้นดูผ่อนคลายลงกว่าเมื่อครู่จนเขารู้สึกแปลกใจ
“โมโหทำไหมครับ ไฮซากิคุงก็เป็นคนที่มีความสามารถที่ผมชื่นชอบ” เฮ้ย...เฮ้ยพูดว่าชอบเราตรงๆคนเลวอย่างฉันเนี้ยนะ
“อย่ามาพูดปลอบเถอะ นายไม่รู้หรอกว่าฉันคนนี้มันแย่แค่ไหน เผลอๆพอนายรู้อาจจะวิ่งเผ่นห่างเป็นกิโล หรือไม่ก็คงจะรู้สึกคิดผิดที่ให้อันธพาลอย่างฉันเข้ามาในบ้านของนายก็ได้”
“ไม่หรอกครับ.....ผมว่าคนเราทุกคนก็มีทั้งข้อดีข้อเสีย แล้วไฮซากิคุงก็อาจจะมีข้อเสียมากกว่าข้อดีเฉยๆเท่านั้น”ดวงตาสีน้ำตาลนิ่งมองพร้อมรอยยิ้มที่อ่อนโยนทำเอาคนหัวใจกระด้างอย่างไฮซากิเต้นตึกตักขึ้น ซวย...แล้วกู มันจะเต้นดังทำไมว่ะมันเป็นผู้ชาย มันเป็นผู้ชาย....ถ่องไว้ ถ่องไว้ ดวงตาสีเทาสั่นไหวก่อนจะเม้มปากแน่นความฟุ้งซ่านเพ้อเจ้อและสุดท้ายเขาก็ต้องยอมรับมันจนได้ กู....ชอบมันว่ะหมอนี้
“เฮ้ย..ไฮ.ซากิ วันนี้ไม่คิดจะซ้อมนอกจากนั่งนิ่งเฉยๆเป็นชั่วโมงหรือไง” เสียงตะโกนดังมาจากในสนามฝึกซ้อมของมัธยมปลายฟุคุดะ ทำเอาไหล่กว้างยักไหล่เมินหน้าหนี
“เออ....ตามใจ แล้วถ้าปีหน้าแพ้อีกแล้วอย่ามาโทษทีมละกัน”
“นี่...อิชิดะ นายรู้จักคนที่ชื่อฟุริฮาตะไหม?”
“ใครนะ..อารายริริ ผู้หญิงคนใหม่ของนายหรือไง” ดวงตาสีเทานิ่งมองก่อนจะลุกมากระชากคอเสื้อกัปตันทีมขึ้นโดยไม่มีความเคารพทำเอาอิชิดะสะบัดแขนอีกฝ่ายออก
“ฉันตอบนายดีๆ เคารพกันบ้างฉันรุ่นพี่นายนะ”
“ไปสืบให้หน่อยรุ่นพี่ ว่าฟุริฮาตะ โคคิ ผู้เล่นของเซย์รินนั้นเป็นใคร มาจากไหน ผมขอความกรุณาครับ” เสียงกวนยั่วอารมรณ์ทำเอากัปตันอิชิดะแทบอยากจะยกเท้าถีบรุ่นน้องกวนบาทาคนนี้
“เดี่ยวไปหาข้อมูลมาให้”
“งั้น...!!ก็ขอบใจ”ดวงตาสีเทากลอกตากวนมองผู้เล่นในสนามก่อนจะแสยะยิ้มเยาะการซ้อมที่เขาคิดว่ามันโคตรไร้สาระ
ในที่สุดไฮซากิ โชโงะก็ได้ทั้งประวัติของชายหนุ่มร่างเล็กคนนั้นมาทำให้วันนี้เขาพาตัวเองมาบุกถึงหน้าประตูโรงเรียนที่ก่อตั้งใหม่อย่างเซย์ริน อยากได้เหยื่อก็ต้องบุกนั้นคือคำนิยามของไฮซากิเวลานี้ ดวงตาสีเทาเหลียวมองนักเรียนหนุ่มสาวที่วนเวียนออกมาไม่ซ้ำหน้าจนเขาเริ่มรู้สึกหงุดหงิดเพราะไร้วี่แววร่างเล็กของฟุริฮาตะคนที่เขามาดักเจอ จนเขาต้องกวักมือเรียกกลุ่มนักเรียนที่เดินมาซักถาม
“นี่พวกนายรู้จักฟุริฮาตะ โคคิไหม”
“ฟุริคุงเหรอค่ะ รู้ค่ะ”
“เขาอยู่ไหนทำไหมยังไม่ออกมาสักที”
“คงเป็นเวรห้องสมุดมั่งค่ะ” เสียงของผู้หญิงหน้าเรียวเล็กทำเอาไฮซากิเข้าใจแจ่มแจ้งก่อนจะกระดกลิ้นไปมผิวปากในท่าทางที่สบายเข้ามาในโรงเรียน ดวงตาสีเทาเหลียวซ้ายมองขวาก่อนจะหันไปมองบอร์ดแผนที่ของโรงเรียนและแสยะยิ้ม อยู่นั้นเองห้องสมุดเซย์ริน
ไฮซากิเปิดแง้มช่องเล็กที่ของประตูที่อ้าอยู่ก่อนจะแทรกหัวโผล่เข้าไปเหลียวมอง ดวงตาสีเทากระตุกยิ้มเมื่อเห็นเป้าหมายที่ก้มบ่นงึมงำอยู่ที่เค้าเตอร์ ถึงจะผ่านมาเกือบอาทิตย์แต่ใบหน้าหวานนั้นยังดูมีแรงดึงดูดบางอย่างทำเอาไฮซากิเผลอจ้องและวาดวิมานเพ้อเจ้ออีกครั้ง ไปไกลๆฉันเพ้อบ้าอะไรอยุ่ฟร่ะ เรียวปากหนาพ่นเป่าความคิดให้ปลิวแตกกระจายก่อนจะแทรกร่างสูงรอดผ่านช่องแคบโดยไม่คิดจะเปิดออกกว้างอย่างมีแผนการณ์ลับ
ขาคู่ยาวค่อยๆย่องเหมือนโจรกำลังปล้นทรัพย์ แต่ทรัพย์ชิ้นนี้มีสมบัติที่เขาอยากได้กว่าเงินทองและของมีค่าใดๆหลังก้มโค้งจนต่ำไปหลบอยู่ข้างโต๊ะเค้าเตอร์ก่อนจะเม้มปากแน่นและค่อยๆเคลื่อนหัวขึ้นช้าๆจนขอบเค้าเตอร์อยู่ในระดับสายตาที่มองเห็นใบหน้าที่ดูจริงจังของใบหน้าเล็กที่กำลังหมกมุ่นโดยไม่ได้รู้สึกการมีตัวตนของเขาเลยแม้แต่น้อย ดวงตาสีเทาชันคางกับโต๊ะจ้องมองใบหน้าอีกฝ่ายอยู่เงียบๆจนเผลอยิ้มไปตามสีหน้าที่เดี่ยวก็ครุ่นคิดเดี่ยวก็สับสนจนเดาอารมณ์ไม่ออก จนปลายปากกาของอีกฝ่ายหยุดชะงักและเหลียวมาทางเขา
“ไฮ...ซากิ...ไฮซากิคุง!!!”
“ไง....ฟุริคุง” ไฮซากิยักคิ้วหนึ่งข้างทักทายก่อนจะคว้าหนังสือแถวๆนั้นยื่นให้
“ฉันอยากมาขอยืมหนังสือที่ห้องสมุดของนายสักเล่ม.....ได้ไหม” ใบหน้าหวานอมยิ้มขึ้นก่อนจะรับหนังสือที่อีกฝ่ายยื่นมาดูให้ชัดๆ “เล่มนี้หรือครับ”
“ใช่!!!เล่มนี้ล่ะ.....หนังสือที่ฉันจะยืมนาย” ใบหน้าหวานนิ่งมองก่อนไฮซากิจะยิ้มเขินเมื่อมองเห็นชื่อของหน้าปกหนังสือที่ทำให้เหวออายอ้ำอึ้ง
“หว่า...อยากจะเป็นคนดีขึ้นสินะครับ ถึงได้มายืมหนังสือจริยธรรมเนี้ย!!”
“แล้วถ้าฉันอยากจะเป็นคนที่ดีขึ้นจริงๆล่ะ นายจะว่าไงฟุริคุง”
ฝามืออุ่นยื่นถือวิสาสะกอบกุมมือเล็กของอีกฝ่ายก่อนดวงตาสีเทาจะจ้องและพูดประโยคเดิมซ้ำด้วยน้ำเสียงจริงจังขึ้น “ว่าไง...ถ้าฉันเป็นคนที่ดีขึ้นจริงๆนายจะชอบคนอย่างฉันไหม?.......ฟุริฮาตะ โคคิ
โปรเจคของครั้งนี้ก็เป้นตัวร้ายที่กวนที่สุดในสามโลก ไฮซากิ โชโงะ
ตามที่ลูกเฟจแนะนำมา
(หวานแบบไฮซากิกวนๆ)